กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว นานจนมิอาจนับได้ ดวงอาทิตย์ดวงหนึ่งได้เดินทางจากบ้านเพื่อไปหาบ้านหลังใหม่ที่เหมาะสมกับตน
ตามประเพณีที่สืบทอดกันมา จนมาพบกับเมืองเมืองหนึ่ง ชาวเมืองเห็นแสงอาทิตย์สว่างไสวสวยงามก็เชื้อเชิญให้มาอยู่ด้วย
ดวงอาทิตย์ดีใจที่ได้บ้านใหม่ ดีใจที่ได้เป็นเพื่อนกับทุกคน ทุกเช้าดวงอาทิตย์จะตื่นแต่เช้าส่องแสงสว่างให้ชาวเมือง ทำให้ทุกคนมองเห็นชัดขึ้น
ทำงานต่างๆง่ายขึ้น ทุกคนดีใจและมีความสุขที่มีดวงอาทิตย์มาเป็นส่วนหนึ่งของเมืองนี้
หลายปีผ่านไป ชาวเมืองหลงลืมความรู้สึกดีใจและสุขใจเหล่านั้นแล้ว หลงลืมความรู้สึกมืดมนก่อนที่ดวงอาทิตย์จะมาจนหมดสิ้น
หลายคนเริ่มบ่นว่าดวงอาทิตย์ว่า ไม่ทำประโยชน์อันใด สร้างแต่ความร้อนอบอ้าวให้ผู้คน
ถ้าไม่มีดวงอาทิตย์เมืองนี้คงน่าอยู่ขึ้น เสียงบ่นว่าดวงอาทิตย์กระจายไปทั่วทั้งเมือง
ผู้คนต่างก็อยากให้ดวงอาทิตย์จากไป ดวงอาทิตย์ได้แต่ร้องไห้เสียใจ
ที่คนเหล่านั้นไม่เห็นคุณค่าของเขาเลย ดวงอาทิตย์จำใจต้องออกเดินทางไปแสวงหาบ้านหลังใหม่ของตนต่อไป
จนมาเจอมหาสมุทรแห่งหนึ่ง สัตว์น้ำต่างๆอยู่กันอย่างมืดมิด
โหยหาแสงสว่างมานานแสนนาน ทุกคนดีใจเชื้อเชิญให้ดวงอาทิตย์มาอยู่ด้วย
ดวงอาทิตย์บอกแก่ชาวมหาสมุทรว่า “เราทำได้เพียงส่องสว่างเท่านั้น ไม่อาจหาอาหารหรือช่วยงานพวกท่านได้หรอกนะ แม้คนในเมืองที่เราจากมาก็บอกว่าเราไม่สามารถทำประโยชน์อันใดได้”
ดวงอาทิตย์กล่าวอย่างเศร้าใจ
“ท่านอาจไม่สามารถหาอาหารหรือช่วยงานพวกเราได้ก็จริง
แต่เป็นเพราะความสว่างของท่าน พวกเราจึงสามารถหาอาหารและทำงานได้ง่ายขึ้น
หากชาวเมืองนั้นไม่เห็นประโยชน์ของท่าน ก็จงมาอยู่กับพวกเราเถิด” ผู้เฒ่าเต่า
ผู้อาวุโสที่สุดในเมืองกล่าวขึ้น ทุกคนต่างเห็นพ้องต้องกัน
ดวงอาทิตย์จึงตัดสินใจอยู่กับชาวมหาสมุทรนับแต่นั้นมา
ขณะที่เมืองที่ดวงอาทิตย์จากมา กลับตกอยู่ในความมืดมิด ทุกคนเศร้าโศก เสียใจ
ที่ขับไล่ดวงอาทิตย์ไป แสงสว่างที่คุ้นชินทำให้พวกเขามองข้ามความสำคัญของดวงอาทิตย์ แม้ตอนนี้จะอยากให้ดวงอาทิตย์กลับมาส่องสว่างมากแค่ไหน แต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น